study abroad
United Kingdom

หลังจากที่นักเรียนเรียนจบภาคบังคับเมื่ออายุ 16 ปี จะสามารถเลือกศึกษาต่อหรือไม่ก็ได้ แต่ ส่วนใหญ่จะเข้าศึกษาต่อในระบบ A-Level สำหรับมัธยมศึกษากระทรวงศึกษาและวิทยาศาสตร์ของสหราชอาณาจักร กำหนดให้มีการสอบวัดผล ซึ่งจะต้องนำไปใช้ในการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งแบ่งการสอบออกเป็น 2 ประเภท คือGCSE (GENERAL CERTIFICATE OF SECONDARY EDUCATION) หรือประกาศนียบัตรมัธยมศึกษา การสอบระดับนี้จะสอบเมื่อนักเรียนมีอายุ 16 ป นักเรียนจะเลือกสอบประมาณ 8-12 วิชาจากวิชาเรียนต่าง อาทิ คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะเป็นต้น โดยผลสอบจะแบ่งเกรดออกเป็น 7 ระดับคือ A, B, C, D, E, F, G ซึ่งนักเรียนจะต้องสอบให้ได้เกรด C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่านนักเรียนที่สอบได้วุฒิบัตร GCSE จึงมีสิทธิ์ที่จะศึกษาต่อใน A-Level สายสามัญ หรือ A-Level สายอาชีพ (Vocational A-Level (หรือชื่อเดิมคือ Advanced GNVQ :The General National Vocational Qualification) อีก 2 ปี นอกจากนี้ยังมี IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) หรือประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาหลักสูตรนานาชาติA-Level (ADVANCED LEVEL) หรือประกาศนียบัตรสำหรับผู้จบการศึกษาระดับสูง ถือเป็นการทดสอบความสามารถทางวิชาการสำหรับนักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีวิชาให้เลือกสอบได้มากกว่า 50 วิชา ซึ่งโดยปกติจะสอบ 2–3 วิชาที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น สายวิทย์ หรือสายศิลป์ ผลการสอบมี 5 ระดับคือ A, B, C, D, E ถ้าสอบได้เกรดตามนี้นี้ถือว่าสอบผ่าน แต่การพิจารณารับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ทางสถาบันจะดูคะแนนที่ระดับ A และ B เป็นเกณฑ์ ซึ่งจะแบ่งได้เป็น
- ระบบราย 5 วิชา นักเรียนต้องมีคะแนนสอบ GCSE 3 วิชา และ A-Level 2 วิชา
- ระบบราย 4 วิชา นักเรียนต้องมีคะแนนสอบ GCSE 1 วิชา และ A-Level 4 วิชา

ปกติ A-Level จะใช้เวลาเรียนประมาณ 2 ปี โดยเรียนสายสามัญในปีแรกซึ่งเรียกว่า AS-Level และในปีที่สองจะเรียน A-Level นักเรียนที่เรียนจบ A-Level จะใช้เวลาเรียนในมหาวิทยาลัยอีก 3 ปี ก็จะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี นอกจากนี้ประเทศอังกฤษยังมีการศึกษาในระบบ FOUNDATION ACCESS เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไม่อยากเสียเวลาเรียน A-Level สำหรับ FOUNDATION ACESS จะใช้เวลาเรียนเพียง 1 ปี แต่ผลการเรียนจะไม่สามารถนำไปใช้สมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ทุกแห่งเหมือนกับระบบ A-Level แต่จะเป็นผลที่ใช้ได้กับเฉพาะมหาวิทยาลัยที่รับนักเรียนที่เลือกเรียนหลักสูตร Foundation และระบบ IB (International Baccalaureate) ซึ่งเป็นหลักสูตรนานาชาติ และเป็นที่ยอมรับในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเช่นกัน

จะสอนภาคปฏิบัติมากกว่าภาคทฤษฎี การเรียนการสอนจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า หลังจบการศึกษาบางหลักสูตรสามารถเรียนต่อเนื่องจนถึงระดับอุดมศึกษาได้ แต่บางหลักสูตรจะมีเฉพาะระดับปริญญาเท่านั้น สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ GNVQ มี 2 ระดับคือ ระดับ FOUNDATION และ INTERMEDIATE หลักสูตรจะเน้นหนักไปทางการสอนเชิงวิชาการแบบ เดิม บางครั้งอาจจะเรียนควบคู่ไปกับหลักสูตร CSE ซึ่งสามารถเรียนต่อในระดับ A-Level ได้ BTEC, EDEXCEL FIRST DIPLOMA เทียบเท่ากับ GNVQ ในระดับ INTERMEDIATE VOCATIONAL A-Level เป็นหลักสูตรที่อาจเรียนควบคู่ไปกับหลักสูตร A-Level ซึ่งสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ BTEC, EDEXCEL NATIONAL DIPLOMA เทียบเท่ากับ VOCATIONAL A-Level ETEC, EDEXCEL HIGHER NATIONAL DIPLOMA เป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียนที่ต้องการปรับความรู้ทางภาคทฤษฎีไปสู่ภาคปฏิบัติ ซึ่งสามารถโอนไปศึกษาในชั้นปีที่ 2 หรือ 3 ได้ในระบบการเรียนปริญญาตรีแบบ 3 ปี

เปิดสอนในระดับปริญญาตรี (UNDERGRADUATE DEGREE) และระดับสูงกว่าปริญญาตรี (POSTGRADUATE Degree) มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรเกือบทั้งหมดจะเป็นของรัฐ มีเพียง University of Buckingham เทานั้นที่เป็นของเอกชนUNDERGRADUATE DEGREE ระดับปริญญาตรี (First Degree or Bachelor’s Degree) หลักสูตรส่วนใหญ่จะเรียน 3 ปี ยกเว้นสายวิศวกรรมจะต้องเรียน 4 ปี ส่วนสายสถาปัตยกรรม ทันตแพทย์ สัตวแพทย์เรียน 5 ปี สายแพทย์เรียน 6 ปี ผู้สมัครจะต้องได้ GCSE และ A-Level หรือเทียบเท่าโดยจะมี Course Requirement เป็นเกณฑ์ กำหนดการรับเข้าในแต่ละสาขา วิชา การสมัครเข้าจะต้องผ่าน UCAS (Universities Central Admission System) ระหว่างเดือน กันยายน ถึงเดือนมีนาคม ยกเว้นมหาวิทยาลัย Oxford และ Cambridge ที่จะมีการจัดสอบตรง

สำหรับนักเรียนไทยที่จบ ม.6 จะไม่สามารถสมัครเข้ามหาวิทยาลัยได้ เนื่องจากวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายของบ้านเราจะเทียบเท่ากับระดับ GCSE เท่านั้น ซึ่งนักเรียนอาจจะเลือกสมัครเรียน Tutorial College สำหรับติวเพื่อสอบเก็บวิชาในระดับ A-Level โดยปกติจะใช้เวลาเรียนประมาณ 2 ปี หรือหากจะเลือกเข้า Foundation Year ของมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยเอกชนที่จัดหลักสูตรนี้ก็ได้ ​

POSTGRADUATE DEGREE หรือระดับสูงกว่าปริญญาตรี รับนักศึกษาที่สำเร็จปริญญาตรีเข้าเรียนในสาขาต่างๆ แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ คือ
1. Postgraduate Certificate, Postgraduate Diploma เป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาโท มีระยะเวลาเรียนประมาณ 9 เดือน
2. Master Degree เป็นหลักสูตรปริญญาโทแบ่งเป็น Taught Masters ระยะเวลาเรียน 1 ปี และ Research Master ระยะเวลาเรียน 1–3 ปี
3. Research Doctorates เป็นหลักสูตรปริญญาเอกระยะเวลาประมาณ 3 ปีขึ้นไป ในปี 2001 มีการเปิดทางเลือกมากขึ้น ในการเรียนปริญญาเอกเรียกว่า New Route to Ph.D เป็นการเรียน 4 ปี โดยปีแรกเป็น Coursework และ 3 ปีหลังเป็น Research plus Professional Skills เนื่องจากเป็นความต้องการของตลาดแรงงานที่ผู้จบปริญญาเอกควรจะมีทักษะที่ได้ฝึกฝนจริงในสาขาวิชาที่เรียน​